เดือนที่ผ่านมา วันหยุดค่อนข้างเยอะพอสมควร ถือว่าเป็นโอกาสได้พักผ่อน บางคนเลือกนอนดูเน็ตฟลิกซ์อยู่ที่บ้านเฉยๆ บางคนอาจจะวางแผนไปเที่ยวในช่วงนี้ แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน และไม่อยากออกไปเบียดเสียดกับคนอื่น #ต้องไปแล้วแหละ จะพาไปเที่ยวเมืองรอง ในแบบ Road Trip เล็กๆ เส้นทางการเที่ยวในวันหยุดยาว แบบไม่ต้องเบียดเสียดผู้คน รับรองได้ว่าไม่มีเบื่อแน่นอน เราขอแนะนำ 3 จังหวัดกับ 2 วัน 1 คืน
พอมีเวลาเก็บกระเป๋าไปเที่ยวกัน มีเวลาอยู่สองวันก็เลยไปที่เที่ยวกันใกล้ๆ เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ในวันเสาร์ 11 โมงกว่าๆ เราก็มุ่งหน้าตรงสู่จังหวัดอยุธยาทันที ครั้งก่อนเราเคยพามาเที่ยว คาเฟ่ในอยุธยาไปแล้ว ครั้งนี้เลยคิดว่าแค่ แวะทานข้าว และหาคาเฟ่ นั่งดื่มกาแฟซักแก้ว เราถึงอยุธยาเที่ยงนิดๆ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง แนะนำร้านนี้ ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกคุณประนอม ร้านดังของอยุธยา เราสั่งต้มยำ ซึ่งเขาปรุงรสมาได้แซบซ่าถึงใจอยู่แล้ว ผู้คนก็มีเวียนเข้าร้านตลอด ถือว่ารอไม่นานมาก อิ่มแล้วก็พอมีเวลาไปเดินถ่ายรูปเล่น เราก็แวะไป Sala Ayuthaya แลนมาร์คที่สายคาเฟ่ทุกคนมาอยุธยาก็ต้องมาเก็บภาพที่นี่กับผนังอิฐแดง คนก็ไม่ได้เยอะมากเหมาะกับการถ่ายภาพ โดยไม่ต้องหลบหลีกผู้คน เราเลยใช้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปอยู่ที่นี่นานพอสมควร
หลังจากนั้น ด้วยอากาศร้อนอบอ้าว เราก็แวะมาเติมพลังที่ Tofu Cafe สาวกชานมไข่มุกต้องห้ามพลาดซึ่งมี T-Bar อยู่ด้านหน้าร้าน ร้านคุมโทนขาว แต่เสียดายเมนูให้เลือกน้อยไปหน่อย แต่รสชาติชาค่อนข้างเข้มข้น และ ไข่มุกที่เหนียวหนึบ ถือว่าอร่อยฟินกันไป เสร็จจากร้าน Cafe เราก็เริ่มออกเดินทางไปสู่จังหวัดสระบุรี ปลายทางที่พักของเรา Big Joey Country Resort อ่านว่าบิ๊กโจ๊ย ถึงที่พักก็เกือบมืดพอดี บ้านของเราตั้งอยู่บนเนิน จะมองเห็นวิวภูเขาและต้นไม้ ภายในรีสอร์ทมีหลายโซนให้เดินเล่น หลังจากเก็บกระเป๋านั่งพัก ท้องฟ้าก็เริ่มมืด ท้องเราก็เริ่มหิว ออกจากที่พักมาทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารครูต้อ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ทางเข้ารีสอร์ท กลับมาพักผ่อน
เช้าของวันอาทิตย์ ตื่นเช้าออกไปเดินเล่นด้านนอก ดูวิวภูเขาและต้นไม้ที่รายล้อมที่พัก สูดกลิ่นอายธรรมชาติให้เต็มปอด เสร็จแล้วเข้าไปเก็บของ และไปทานอาหารเช้าที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ และออกเดินทางไปเที่ยวต่อมุ่งหน้าสู่โซนเขาใหญ่ เริ่มต้นกันที่ Pirom Cafe ตัวอาคารเป็นไม้สีเข้ม ท่ามกลางสีเขียว เข้ากับบรรยากาศรอบๆ มีโซนที่นั่งทั้งด้านนอกและด้านใน และยังมีวิวทะเลสาบขนาดใหญ่ ให้ทอดสายตาคลายความเมื่อยล้า ในส่วนของกาแฟก็รสชาติดี แต่เมนูขนมมีค่อนข้างน้อย เราออกมาค่อนข้างเช้า เลยไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก ทางสะดวกในการถ่ายรูป มีมุมให้ถ่ายรูปค่อนข้างเยอะ ออกจาก Pirom Cafe ก็เดินทางต่อมายัง
The birder’s Lodge ซึ่งครั้งนี้เรามาแวะเดิน The Birder’s Lodge Farmer’s Market ตลาดนัดในโรงนา ซึ่ง จะมีสินค้าท้องถิ่นที่มาจากสวนในพื้นที่เขาใหญ่อาทิเช่น ผลไม้ ผักปลอดสารพิษต่างๆ และ ต้นไม้ประดับให้เลือกซื้อมากมาย พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ ก็เป็นชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งตลาดจะเปิดเฉพาะศุกร์-เสาร์-อาทิตย์เท่านั้นนะครับ ผู้คนก็หนาแน่นเช่นเคย จุดมุ่งหมายถัดจากนี้ แวะทานอาหารเที่ยงและมุ่งหน้าสู่ น้ำตกตายาย แต่เนื่องจากอากาศร้อนมากๆ ผู้คนหลั่งไหลกันไปเล่นน้ำตกอย่างล้นหลาม ไปถึงน้ำตกเลยเปลี่ยนใจ เปลี่ยนเส้นทางสู้ จ.นครนายก ออกจากน้ำตกประมาณ บ่ายสอง ตลาดเส้นทางถนนค่อนข้างโล่ง
มอนเทรอคาเฟ่ นครนายก สถานีสุดท้ายของทริปนี้ บรรยากาศแบบชิลๆ กลางทุ่งนา กลิ่นหอมๆ ของไอแดด ต้นข้าว กลิ่นไอดิน มองไปไกลๆ เห็นวิวท้องทุ่งที่บางพื้นดินกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมเพื่อการปักดำ กลิ่นแบบเคล้ากลิ่นดินในธรรมชาติ อาจจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ภายในมอนเทรอคาเฟ่นี้ นอกจากจะมีคาเฟ่ และ อาหารไว้บริการแล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆให้ร่วมสนุก ไม่ว่าจะเป็น การดำนา การปลูกต้นพริก การทำไข่เข็ม และ การทำเสื้อมัดย้อม ให้เราได้เรียนรู้ขั้นตอนและวิธีการทำต่างๆ ในรูปแบบของภูมิปัญญาชาวบ้าน ต้องบอกว่าครบถ้วนจริงที่ไม่อาจจะหาคาเฟ่แบบนี้ได้ในเมือง ผมเคยได้ยินมาว่า กลิ่นธรรมชาติช่วยบำบัด ให้รู้สึกคลายความเหนื่อยล้า และ เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต่อสู้โรคต่างๆได้ดีขึ้นอีกด้วย เพราะบางที่อย่างในญี่ปุ่น มีป่ากลางเมืองหลายแห่ง ที่สามารถให้คนเมืองเข้าไปบำบัดได้ง่ายๆ
ทริปนี้ เป็นทริปของการพักผ่อนอย่างแท้ทรู เพราะเราได้พาไป สูดอากาศธรรมชาติ ภูเขา ทุ่งนา ทุ่งหญ้า ใครที่มีวันหยุด (ไม่มาก) แต่อยากพักผ่อน โดยใช้ธรรมชาติเพิ่มพลัง เดินทางแบบทริปเราครั้งนี้ ก็ได้บรรยากาศผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ชมคลิปวีดีโอเพิ่มเติม https://bit.ly/30PiLLb
